ยกหางตา มีกี่แบบ?

ยกหางตา มีกี่แบบ?
ยกหางตา มีกี่แบบ ยกหางตา มีกี่แบบ?

การยกหางตาเป็นศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพื่อแก้ไขปัญหาหางตาตก หนังตาหย่อนคล้อย และริ้วรอยรอบดวงตา ทำให้ดวงตาดูยกกระชับ สดใส และอ่อนเยาว์ขึ้น อย่างไรก็ตาม การยกหางตามีหลายรูปแบบ แต่ละรูปแบบมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป

ประเภทของการยกหางตา

การยกหางตาสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้:

  • การยกหางตาแบบผ่าตัด:
    • เป็นการผ่าตัดยกกระชับผิวหนังบริเวณหางตา และตัดหนังตาส่วนเกินออก
    • ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนาน
    • ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานกว่า
    • การผ่าตัดยกหางตาสามารถแบ่งออกเป็น 3 เทคนิคหลัก ๆ ดังนี้:
      • การผ่าตัดยกหางตาแบบซ่อนแผลใต้คิ้ว (Sub-Brow Lift):
        • เป็นการผ่าตัดยกกระชับผิวหนังบริเวณหางตา โดยซ่อนแผลไว้ใต้คิ้ว
        • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหางตาตกเล็กน้อยถึงปานกลาง
        • ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
      • การผ่าตัดยกหางตาแบบซ่อนแผลเหนือคิ้ว (Direct Brow Supra-Brow Lift):
        • เป็นการผ่าตัดยกกระชับผิวหนังบริเวณหางตา โดยซ่อนแผลไว้เหนือคิ้ว
        • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหางตาตกมาก
        • ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน
      • การผ่าตัดยกหางตาแบบส่องกล้อง (Endoscopic Brow Lift):
        • เป็นการผ่าตัดยกกระชับผิวหนังบริเวณหางตา โดยใช้กล้องส่อง
        • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหางตาตกเล็กน้อยถึงปานกลาง
        • มีแผลเล็ก และใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่า
  • การยกหางตาแบบไม่ผ่าตัด:
    • เป็นการยกกระชับผิวหนังบริเวณหางตา โดยไม่ต้องผ่าตัด
    • ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
    • ใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่า
    • ผลลัพธ์ไม่ถาวร
    • การยกหางตาแบบไม่ผ่าตัดสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้:
      • การร้อยไหมยกหางตา:
        • เป็นการร้อยไหมละลายเข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อยกกระชับผิวหนังบริเวณหางตา
        • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหางตาตกเล็กน้อยถึงปานกลาง
        • ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี
      • การฉีดโบท็อกซ์ยกหางตา:
        • เป็นการฉีดโบท็อกซ์เข้าไปบริเวณกล้ามเนื้อรอบดวงตา เพื่อคลายกล้ามเนื้อและยกหางตาขึ้น
        • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหางตาตกเล็กน้อย
        • ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือน
      • การฉีดฟิลเลอร์ยกหางตา:
        • เป็นการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปเติมเต็มบริเวณหางตา เพื่อยกหางตาขึ้น
        • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหางตาตกเล็กน้อยถึงปานกลาง
        • ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน
      • การยกหางตาด้วยเครื่องยกกระชับ:
        • เป็นการใช้เครื่องยกกระชับ เช่น Ulthera หรือ Thermage เพื่อยกกระชับผิวหนังบริเวณหางตา
        • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหางตาตกเล็กน้อยถึงปานกลาง
        • ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี
          ยกหางตา มีกี่แบบ?

การเลือกวิธียกหางตา

การเลือกวิธียกหางตาที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ดังนี้:

  • ระดับความหย่อนคล้อยของหางตา:
    • หากมีปัญหาหางตาตกมาก การผ่าตัดยกหางตาอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
    • หากมีปัญหาหางตาตกเล็กน้อย การยกหางตาแบบไม่ผ่าตัดอาจเพียงพอ
  • ความต้องการผลลัพธ์:
    • หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนาน การผ่าตัดยกหางตาเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
    • หากต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและใช้เวลาพักฟื้นน้อย การยกหางตาแบบไม่ผ่าตัดอาจเหมาะสมกว่า
  • งบประมาณ:
    • การผ่าตัดยกหางตามีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการยกหางตาแบบไม่ผ่าตัด
  • สภาพผิว:
    • ผู้ที่มีผิวบอบบางอาจไม่เหมาะกับการผ่าตัดยกหางตา

ข้อดีและข้อเสียของการยกหางตาแต่ละแบบ

  • การยกหางตาแบบผ่าตัด:
    • ข้อดี: ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนาน
    • ข้อเสีย: ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานกว่า และมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า
  • การยกหางตาแบบไม่ผ่าตัด:
    • ข้อดี: ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่า และมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า
    • ข้อเสีย: ผลลัพธ์ไม่ถาวร

สรุป

การยกหางตามีหลายรูปแบบ แต่ละรูปแบบมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป การเลือกวิธียกหางตาที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการ เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับวิธียกหางตาที่เหมาะสมกับคุณ

ช่องทางติดต่อ Double P Clinic
Website:  https://doublepclinic.com/
Facebook:  https://www.facebook.com/doublepclinic/
Line: @doublepclinic
เบอร์โทรศัพท์:
สาขากรุงเทพฯ: 02-060-1167, 091-773-9167, 094-965-6393
สาขาพิษณุโลก: 095-664-4246

#ยกหางตา #ศัลยกรรมยกหางตา #ตาตก #หนังตาหย่อนคล้อย #ริ้วรอยรอบดวงตา #ศัลยกรรมตา #ความงาม #ศัลยกรรม

Author Profile

Admin